การขูดหินปูน เป็นการที่แพทย์ใช้เครื่องมือเฉพาะในการขจัดหินปูน โดยจะเป็นเครื่องมือกลุ่มที่มีแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง (Ultrasonic scaler) เพื่อทำให้หินปูน ซึ่งเกาะแน่นหลุดออกไป
จากนั้นจะใช้เครื่องมือที่มีปลายเล็ก และคม เก็บรายละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะทำการขัดฟันด้วย Fluoride polishing paste อีกเครื่องเพื่อขจัดคราบและป้องกันฟันผุ
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับการขูดหินปูน
- หินปูน คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
- การขูดหินปูนคืออะไร?
- ขูดหินปูนต้องฉีดยาชาหรือไม่ เลือดออกเป็นอะไรไหม?
- ต้องขูดหินปูนบ่อยแค่ไหน?
- ขูดหินปูนใช้เวลาทำนานไหม?
- หลังขูดหินปูน มีวิธีปฏิบัติ หรือดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
- ขูดหินปูนมีข้อห้ามไหม ขูดได้ทุกคนหรือเปล่า?
- คำแนะนำหลังการขูดหินปูนและเกลารากฟัน
- สาเหตุการเกิดโรคเหงือกอักเสบและปริทันต์อักเสบ
- Airflow คืออะไร?
- Air Flow เหมาะกับใคร?
- ตัวอย่างการรักษาด้วยการขจัดคราบ Air flow
- ทันตแพทย์
หินปูน คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
หินปูน เรียกทางการแพทย์อีกอย่างหนึ่งว่า “หินน้ำลาย”
เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในบริเวณที่ทำความสะอาดถึง โดยคราบจุลินทรีย์จะประกอบด้วยคราบอาหารและเชื้องโรค เมื่อเวลาผ่านไปมีการสะสมของแร่ธาตุจากสภาวะแวดล้อมไม่ว่าจะจากน้ำลายหรือจากอาหาร ทำให้คราบเกิดการตกตะกอนเป็นของแข็งเกาะอยู่บนผิวฟัน ซอกเหงือก ซอกฟัน และขอบฟัน มีลักษณะเป็นของแข็ง มีสีเหลือง น้ำตาล ไปจนถึงสีดำ ไม่สามารถขจัดออกได้เอง ต้องให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนออกไปเท่านั้น
เมื่อหินปุนสะสมมากขึ้นจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพเหงือกและฟัน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นปาก ฟันผุ ฟันโยก เหงือกอักเสบ เหงือกร่น ถ้ารุนแรงมากขึ้นจะเป็นโรคปริทันต์ และอาจจะสูญเสียฟันไปได้ในที่สุด
การขูดหินปูนคืออะไร?
การขูดหินปูน เป็นการที่แพทย์ใช้เครื่องมือเฉพาะในการขจัดหินปูน โดยจะเป็นเครื่องมือกลุ่มที่มีแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง (Ultrasonic scaler) เพื่อทำให้หินปูน ซึ่งเกาะแน่นหลุดออกไป
จากนั้นจะใช้เครื่องมือที่มีปลายเล็ก และคม เก็บรายละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะทำการขัดฟันด้วย Fluoride polishing paste อีกเครื่องเพื่อขจัดคราบและป้องกันฟันผุ
ขูดหินปูนต้องฉีดยาชาหรือไม่ เลือดออกเป็นอะไรไหม?
การที่มีหินปูนอยู่ใกล้กับเหงือกเป็นเวลานาน จะกระตุ้นให้เหงือกเกิดการอักเสบขึ้น ทำให้มีอาการที่เห็นได้ชัดคือ เหงือกจะบวม แดง และมีเลือดออก ทำให้เมื่อเครื่องมือไปสัมผัสทำให้มีเลือดออกตามร่องเหงือกได้ ซึ่งคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บใดๆ แต่หากมีอาการที่รุนแรงขึ้นเช่นมีหินปูนใต้เหงือกหรือมีโรคปริทันต์ ทำให้เหงือกเกิดการอักเสบและในบางรายติดเชื้อร่วมด้วย แพทย์จะทำการฉีดยาชาเพื่อบรรเทาอาการ
โดยเลือดจะหยุดไหลเองภายหลัง และหลังจากขูดหินปูนอาจจะมีอาการเสียวฟันบ้างแต่อาการจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน
ต้องขูดหินปูนบ่อยแค่ไหน?
ทันตแพทย์แนะนำให้ขูดหินปูนเพื่อสุขภาพปากและฟันที่แข็งแรง โดยแนะนำให้ขูดหินปูนทุก 6เดือน แต่ถ้าคนไข้ที่มีปัญหาอื่นๆ เช่น โรคปริทันต์ จะต้องมาตามที่แพทย์สั่ง โดยปกติ ถ้าโรคปริทันต์แพทย์จะทำการนัดหมายเพื่อเกลารากฟันทุกสองถึงสามเดือน
ขูดหินปูนใช้เวลาทำนานไหม?
โดยปกติการขูดหินปูนจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูน
หลังขูดหินปูน มีวิธีปฏิบัติ หรือดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
หลังขูดหินปูนจะรู้สึกว่า ปากโล่ง สบาย สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติทันที แต่บางรายอาจมีอาการเสียวฟันเล็กน้อย หากมีอาการนี้ไม่ต้องกังวลเพราะอาการจะหายไปเองใน 2-3 วัน เพียงแแต่ควรงดดื่มน้ำเย็น รับประทานน้ำแข็ง เพื่อไม่กระตุ้นให้เกิดอาการ นอกจากนี้ก็ไม่มีข้อใดต้องปฏิบัติเป็นพิเศษ เพียงแค่แปรงฟันเช้า-เย็น และใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารก็เพียงพอ
ขูดหินปูนมีข้อห้ามไหม ขูดได้ทุกคนหรือเปล่า?
มีผู้ป่วยบางกลุ่มที่ควรระวังในการขูดหินปูน ได้แก่
-
ผู้ที่มีประวัติการเปลี่ยนข้อ เปลี่ยนลิ้นหัวใจ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการไหลของเลือด เช่น เกล็ดเลือดต่อ ลูคีเมีย ไต ความดัน หัวใจ
-
โรคหัวใจอาจมีอาการเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยใจสั่น โรคหอบหืดอาจมีอาการหอบเหนื่อย ต้องมียาพ่นประจำ และได้รับยา Steriod โรคลมชักและโรคความดันโลหิตสูง
-
กลุ่มเบาหวาน
ดังนั้นควรแจ้งท้นตแพทย์ถึงการแพ้ยาและโรคประจำตัวทุกครั้งก่อนการรักษาเพื่อแพทย์จะได้ทำการรักษาที่เหมาะสม
คำแนะนำหลังการขูดหินปูนและเกลารากฟัน
การขูดหินปูน และเกลารากฟันจะเป็นการรักษาโรคเหงือก โดยทำการขจัดคราบจุลินทรีย์ หินปูนที่อยู่บริเวณรากฟันและเหงือก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการหาย ลดการติดเชื้อและการอักเสบที่มีสาเหตุจากคราบจุลินทรีย์
อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังจากขูดหินปูน
- เสียวฟัน อาการเสียวฟันหลังขูดหินปูน อาจจะพบได้ และจะหายไปเองภายในหนึ่งสัปดาห์ ถ้ามีอาการเสียวฟันมาก อาจใช้ยาสีฟันลดการเสียวฟัน ช่วยได้ และพยายามเลี่ยงยาสีฟันกลุ่ม whitening ในช่วงนี้ เนื่องจากจะทำให้อาการเสียวฟันเพิ่มมากขึ้น
- ฟันโยก ในคนไข้ที่เป็นโรคปริทันต์ หลังเกลารากาฟันจะรู้สึกว่าฟันโยกมาขึ้น และฟันจะค่อยๆแน่นขึ้นในวันต่อไป
- รู้สึกว่ามีช่องระหว่างฟัน ในคนไข้ที่เหงือกร่น เมื่อทำการขูดหินปูนที่สะสมระหว่างฟันออกไป คนไข้อาจจะรู้สึกว่ามีช่องระหว่างซี่ฟันได้
- ในคนไข้ที่เกลารากฟันจากโรคปริทันต์อักเสบ อาจจะมีเลือดซึมในวันแรก ให้กัดผ้าก๊อซและบ้วนน้ำเกลือ
- สามารถแปรงฟันทำความสะอาดช่องปากได้ตามปกติ
- สามารถทานอาหารได้ตามปกติ
ขูดหินปูนราคาเท่าไหร่
| บริการ | ราคา |
| ขูดหินปูนและขัดฟัน | เริ่มต้น 1,000-1,800 บาท |
| Airflow (Promotion) |
1,800 บาท |
สาเหตุการเกิดโรคเหงือกอักเสบและปริทันต์อักเสบ
โรคเหงือกอักเสบ (gingivitis) คือโรคที่มีการอักเสบของเหงือก ทำให้เหงือกมีลักษณะบวม แดง คลำนิ่ม มีเลือดออกง่าย เมื่อมีปัจจัยส่งเสริมอื่นเพิ่มขึ้น จะลุกลามเป็นโรคปริทันต์อักเสบ (periodontitis)
โรคปริทันต์อักเสบ ควรได้รับการขูดหินปูนร่วมกับการเกลารากฟัน และดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ แนะนำพบทันตแพทย์ ทุก 3-6 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม
Airflow คืออะไร?
การขจัดคราบที่ฟันด้วยเครื่องแอร์โฟลว์ เป็นการทำความสะอาดคราบฟันโดยใช้หลักของการพ่นละอองที่มีส่วนผสมของอากาศ น้ำ และผงขัดทำความสะอาดชนิดพิเศษ (Phophylaxis Powder) โดยผงขัดได้รับการผลิตให้ลดมุมคม จึงทำให้ไม่ระคายเคืองต่อเหงือกหรือเคลือบฟัน สามารถขจัดคราบสีฟันติดแน่น และคราบจุลินทรีย์ได้ทุกซอกทุกมุม เข้าถึงได้ดีแม้ในบริเวณที่ทำความสะอาดยาก
Air Flow เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาคราบบนผิวฟัน
- ผู้ที่ใส่เครื่องมือจัดฟัน
- ผู้ที่ใส่ฟันปลอมชนิดติดแน่น
- ผู้ที่ฝังรากฟันเทียม
- ผู้ที่ต้องการสร้างรอยยิ้มสะอาดสดใส
ตัวอย่างการรักษาด้วยการขจัดคราบ Air flow
ขูดหินปูน ขัดฟัน
PRICES